เมนู

3. วิญญาณสูตร



ว่าด้วยสัทธานุสารี และธัมมานุสารีบุคคล



[471] กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย จักขุวิญญาณไม่เที่ยง มีอันแปรปรวนเป็นอย่างอื่นเป็น
ธรรมดา โสตวิญญาณ ฯลฯ ฆานวิญญาณ ฯลฯ ชิวหาวิญญาณ ฯลฯ
กายวิญญาณ ฯลฯ มโนวิญญาณ
ไม่เที่ยง มีอันแปรปรวนเป็นอย่างอื่น
เป็นธรรมดา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดเชื่อมั่นไม่หวั่นไหวซึ่งธรรม
เหล่านี้อย่างนี้ เรากล่าวผู้นี้ว่า สัทธานุสารี ฯลฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ย่อมควรเพ่งด้วยปัญญา โดยประมาณอย่างนี้
แก่ผู้ใด เรากล่าวผู้นี้ว่า ธัมมานุสารี ฯลฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดรู้เห็น
ธรรมเหล่านี้ อย่างนี้ เรากล่าวผู้นี้ว่าเป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำ
เป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า.
จบ วิญญาณสูตร

4. ผัสสสูตร



ว่าด้วยสัทธานุสารี และธัมมานุสารีบุคคล



[472] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักขุสัมผัสไม่เที่ยง
มีอันแปรปรวนเป็นอย่างอื่นเป็นธรรมดา โสตสัมผัส ฯลฯ ฆานสัมผัส
ฯลฯ ชิวหาสัมผัส ฯลฯ กายสัมผัส ฯลฯ มโนสัมผัสไม่เที่ยง มีอัน
แปรปรวนเป็นอย่างอื่นเป็นธรรมดา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดเชื่อมั่น
ไม่หวั่นไหวซึ่งธรรมเหล่านี้อย่างนี้ เรากล่าวผู้นี้ว่า สัทธานุสารี ฯลฯ
เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า.
จบ ผัสสสูตร

5. เวทนาสูตร



ว่าด้วยสัทธานุสารี และธัมมานุสารีบุคคล



[473] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักขุสัมผัสสชเวทนา
ไม่เที่ยง มีอันแปรปรวนเป็นอย่างอื่นเป็นธรรมดา โสตสัมผัสสชาเวทนา
ฯลฯ ฆานสัมผัสสชาเวทนา ฯลฯ ชิวหาสัมผัสสชาเวทนา ฯลฯ
กายสัมผัสสชาเวทนา ฯลฯ มโนสัมผัสสชาเวทนา
ไม่เที่ยง มีอัน
แปรปรวนเป็นอย่างอื่นเป็นธรรมดา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดเชื่อมั่น
ไม่หวั่นไหวซึ่งธรรมเหล่านี้อย่างนี้ เรากล่าวผู้นี้ว่า สัทธานุสารี ฯลฯ
เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า.
จบ เวทนาสูตร

6. สัญญาสูตร



ว่าด้วยสัทธานุสารี และธัมมานุสารีบุคคล



[474] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูปสัญญาไม่เที่ยง
มีอันแปรปรวนเป็นอย่างอื่นเป็นธรรมดา สัททสัญญา ฯลฯ คันธสัญญา
ฯลฯ รสสัญญา ฯลฯ โผฏฐัพพสัญญา ฯลฯ ธัมมสัญญา
ไม่เที่ยง
มีอันแปรปรวนเป็นอย่างอื่นเป็นธรรมดา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใด
เชื่อมั่น ไม่หวั่นไหวซึ่งธรรมเหล่านี้อย่างนี้ เรากล่าวผู้นี้ว่า สัทธานุสารี
ฯลฯ เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า.
จบ สัญญาสูตร